หนึ่งวันกิน 7 สีเพื่อสุขภาพดี รับลิงก์ Facebook Twitter Pinterest อีเมล แอปอื่นๆ กรกฎาคม 08, 2554 หนึ่งวันกิน 7 สีเพื่อสุขภาพดี สถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ถึงกับแนะนำให้บริโภคผักและผลไม้ 5-9 หน่วยรับประทาน (serving) ต่อวัน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ชายให้รับประทาน 9 หน่วยต่อวัน ผู้หญิงให้รับประทาน 7 หน่วยต่อวัน และเด็กรับประทาน 5 หน่วยต่อวัน ซึ่งใน 1 หน่วยการรับประทานนั้น ประกอบด้วย ผักสด 1 ถ้วย ผักที่ผ่านการปรุงแล้วครึ่งถ้วย และผลไม้อีกครึ่งถ้วย แต่ในหนึ่งหน่วยของการบริโภคผักและผลไม้นั้น ยังมีเรื่องของสีสันเป็นองค์ประกอบหลักในการเลือกรับประทานให้เกิดประโยชน์ สูงสุดอีกด้วย ผัก ผลไม้ แต่ละชนิดนอกจากจะให้คุณประโยชน์แตกต่างกันแล้ว ยังมีสีสันที่ต่างกันไปอีกด้วย ซึ่งสีสันของผักผลไม้นั้นไม่ใช่แค่ส่วนประกอบช่วยเพิ่มความเชิญชวนในการรับ ประทานเท่านั้น แต่สีสันที่มีอยู่ในผักผลไม้ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ซึมผ่านเข้าไปในแต่ละอวัยวะภายในร่างกายเพื่อช่วยบำรุงทั้งสมอง สายตา หัวใจ และส่วนต่างๆ ของร่างกายอีกมากมาย เพราะฉะนั้นสีสันจึงเป็นเรื่องสำคัญ ในแต่ละวันเราจึงควรรับประทานผักผลไม้ให้ครบทั้ง 7 สี เพื่อสุขภาพที่ดีของร่างกายเราเอง ผัก ผลไม้ที่เราพบเห็นและบริโภคกันอย่างเอร็ดอร่อยนั้น มีสีสันที่แตกต่างหลากหลายกันไปตามแต่ละชนิด แต่บางคนอาจจะงงๆ และสงสัยว่าผัก ผลไม้สีไหนให้ประโยชน์อย่างไร และการรับประทานผักผลไม้ให้ครบทั้ง 7 สีในหนึ่งวันนั้นควรจะต้องรับประทานผักผลไม้และพืชพรรณใดเข้าไปบ้าง ข้อมูลข้างล่างนี้เป็นการแบ่งแยกสีสันของผักผลไม้ทั้ง 7 สี รวมถึงบอกสรรพคุณที่ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายในส่วนต่างๆ ไว้ดังนี้ สีแดง ผักผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มสีสันร้อนแรงสีนี้ ได้แก่ มะเขือเทศ ส้มโอสีชมพู แตงโม ซึ่งมีประโยชน์ช่วยบำรุงปอด โรคมะเร็งที่หัวใจและปอด ผักผลไม้สีแดงช่วยป้องกันได้ สีแดง-ม่วง ผักผลไม้ที่ให้สีสันนี้ ได้แก่ องุ่น ลูกพรุน แครนเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ แอปเปิ้ลแดง สำหรับคนที่อยากได้ชื่อว่าเป็นคนฉลาดควรต้องรับประทานผัก ผลไม้ในกลุ่มนี้ เพราะผลไม้สีแดง-ม่วง จะเข้าไปช่วยบำรุงการทำงานของเซลล์สมอง ใครอยากเป็นอัจฉริยะก็ต้องรับประทานผักผลไม้สีนี้กันเยอะๆ สีส้ม ผักผลไม้ในสีสันที่ยั่วยวนชวนรับประทานนี้ ได้แก่ แครอต มะม่วง แอปริคอต แคนตาลูป ฟักทอง มันฝรั่งหวาน ผลไม้จำพวกแตง พิเศษสุดสำหรับสาวๆ ที่อยากเป็นสาวสุขภาพดีและมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่งนวลเนียนแล้วล่ะก็ ผักผลไม้สีส้มสามารถช่วยได้ แถมยังช่วยบำรุงสายตาอีกด้วย สีส้ม-เหลือง ผักผลไม้ในประเภทนี้ ได้แก่ ส้ม ส้มเขียวหวาน พีช มะละกอ เนคทารีน ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงหัวใจ และกระเพาะอาหาร และสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่ายหรือท้องผูก สีส้ม-เหลืองก็พอช่วยได้ และในสีส้ม-เหลืองนี้ยังมีวิตามินซีจำนวนมาก ผักผลไม้สีส้ม-เหลืองยังบำรุงระบบเซลล์ในร่างกาย และมีความสารถในการฆ่าเซลล์มะเร็งในร่างกายของมนุษย์และสัตว์ได้อีกด้วย สีเหลือง-เขียว ผักผลไม้ประเภทนี้ ได้แก่ ผักขม อโวคาโด แตงโมฮันนีดิว กะหล่ำเขียว ผักกาดเทอร์นิพ ข้าวโพดเหลือง ถั่วลันเตา ผักผลไม้สีนี้มีประโยชน์ช่วยบำรุงตับของเราให้แข็งแรง และยังกระตุ้นระบบการฟอกของเสียต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย ส่วนสาวๆ ที่กังวลเรื่องริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าสีเหลือง-เขียว ก็สามารถกำจัดริ้วรอยที่ไม่พึงประสงค์ออกไปได้ สีเขียว ผักผลไม้ประเภทนี้ ได้แก่ บร็อกโคลี่ หัวกะหล่ำปลี กะหล่ำปลี กะหล่ำปลีจีน ผักกวางตุ้ง ผักคะน้า ผักบุ้ง แน่นอนว่าที่เราเคยได้ยินผู้ใหญ่พูดกันเสมอๆ ว่ากินผักบุ้งจะทำให้ตาหวาน เพราะว่าพืชผักผลไม้สีเขียวนี้จะมีวิตามินเอเยอะ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการบำรุงสายตาของเราให้มีสุขภาพดี สีขาว-เขียว ผักผลไม้ในประเภทสุดท้ายนี้ ได้แก่ กระเทียม ใบกระเทียม หัวหอม ขึ้นฉ่าย ลูกแพร์ ใบเอนไดฟ์ ประโยชน์ของผักผลไม้สีนี้ก็คือ ช่วยในการทำงานของระบบหมุนเวียนต่างๆ ภายในร่างกาย โดยเฉพาะหัวใจ ใครไม่อยากเป็นโรคหัวใจก็ต้องบริโภคผักผลไม้สีขาว-เขียวกันเยอะๆ แล้วก็ได้รู้กันแล้วว่าผักผลไม้ทั้ง 7 สี แบ่งเป็นสีสันประเภทไหนกันบ้าง ตอนนี้ก็เหลือแค่ว่าเราจะเลือกรับประทานกันให้ถูกวิธีได้หรือก็ไม่เท่านั้น ขอบคุณข้อมูลจาก http://minihome.truelife.com/home/blog/read/1095529/86071 รับลิงก์ Facebook Twitter Pinterest อีเมล แอปอื่นๆ ความคิดเห็น
5 อาหารที่ทำให้อารมณ์ดี กันยายน 16, 2554 ถึงแม้ว่าคุณจะไม่อาการอารมณ์เสียแต่อย่างใดแต่ถ้าหากอยากให้ตัวเองเป็นคนดูอารมณ์ดีตลอดวันก็ลองมาหา อาหารที่ทำให้อารมณ์ดี กันดีกว่านะค่ะ ด้วย อาหารที่ทําให้อารมณ์ดี นี้นอกจากจะทำให้คุณคนอารมณ์แล้วใน อาหารที่ทําให้อารมณ์ดี นี้ยังช่วยรักษาสุขภาพของคุณให้แข็งแรง ไม่โรคภัยมาเบียดเบียนอีกด้วยค่ะ และที่สำคัญอาหารที่ทําให้อารมณ์ดีนี้ยังทำให้จิตแจ่มใสอีกด้วยนะค่ะ 5 อาหารที่ทำให้อารมณ์ดี 1. ปลาแซลมอนและปลาแมคเคอเรล อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีการวิจัยยืนยันว่า หากขาดกรดไขมันชนิดนี้จะไปสู่อาการซึมเศร้าได้ 2. น้ำมันคาโนลา (Canola Oil) คนที่มีอาการซึมเศร้ามักจะมีระดับวิตามินอีต่ำซึ่งน้ำมันคาโนลาสามารถทดแทนได้เพราะมีวิตามินอีสูงมาก อาจใช้น้ำมันคาโนลาปรุงอาหารแทนน้ำมันพืชก็ได้แต่ไม่ควรทานเกินวันละ 2 ช้อนโต๊ะ เพราะจะทำให้อ้วนได้ 3. ผักโขม ผักใบเขียวอย่างผักโขมมีโฟเลตสูงซึ่งโฟเลตมีส่วนสำคัญในกระบวนการสร้างเซโรโทนิน ลองหันมากินสลัดผักโขมแทนสลัดผักกาดหอมทั่วไป เวลาอารมณ์ไม่ดีก็ช่วยได้ 4. ถั่วชิกพี หรือถั่วหัวช้าง (Chick Pea) มีโฟเลตและวิตามินอีสูง นอกจากนี้ยังมีไฟเ อ่านเพิ่มเติม
เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ กันยายน 16, 2554 เมี่ยงส้มผลไม้ ส่วนผสม มะพร้าวทึนทึกหั่นเส้น (ละเอียด)1 ถ้วยตวง ถั่วลิสง ½ ถ้วยตวง เห็ดเค็มป่น ¼ ถ้วยตวง ขิงแก่สับหยาบ ๆ 3 ช้อนโต๊ะ หอมแดงสับหยาบ ๆ ¼ ถ้วยตวง มะขามเปียก ¼ ถ้วยตวง น้ำตาลปี๊บ ¾ ถ้วยตวง ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น ½ ช้อนชา ผลไม้ มะม่วงชมพู่ สับปะรด ส้มเขียวหวาน มะปราง ส้มโอ วิธีทำ มะพร้าวทึนทึกผึ่งไว้ 20-30 นาที นำไปคั่วไฟกลางให้เหลืองหอม พักไว้ให้เย็น ถั่วลิสงคั่วให้สุก เอาเปลือกออกพักไว้ เห็ดเค็มป่นทำได้โดยนำเห็ดนางฟ้าแช่น้ำเกลือแล้วบีบน้ำเกลือออก นำไปอบหรือย่างแล้วจึงโขลกหรือสับ มะขามเปียกคั้นน้ำข้นปานกลางพักไว้ นำกระทะตั้งไฟกลางใส่ขิงสับและหอมแดงสับคั่วให้สุก ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก เกลือป่น ซีอิ๊วขาว เคี่ยวต่อจนเหนียวเป็นยางมะตูม ยกลงพักไว้ให้เย็น นำมะพร้าวคั่ว ถั่วลิสงคั่ว เห็ดเค็มป่น ใส่อ่างผสม ใส่น้ำเมี่ยงที่เย็นแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน จัดเมี่ยงเป็นคำ ๆ รับประทานกับผลไม้ ข้าวอบเผือก ข้าวสารหอมมะลิ 2 ถ้วยตวง เผือกหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 1½ ถ้วยตวง หมูสามชั้นหั่นชิ้นพอคำ 100 กรัม แปะก๊วย ¼ ถ้วยตวง กุ อ่านเพิ่มเติม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น